loading
ลงทะเบียนนัด DEMO ออนไลน์
CI สนออก”โทเคน”แบบมีสินทรัพย์ค้ำประกัน ระดมทุนต่อยอดพัฒนาโครงการ
: 21 พฤษภาคม 2564 | :
ชาญอิสสระฯขานรับเทรนด์ยุคดิจิทัล เตรียมแผนออกเหรียญ Crypto currency มีสินทรัพย์ค้ำประกันประเภทโรงแรม-อาคารสำนักงาน เพื่อระดมเงินทุนนำเงินมารองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต คาดสรุปผลภายใน 4-5 เดือน รับวิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบการเข้าบริหาร รร.ที่ไห่หนาน และ นำสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ฯ ต้องเลื่อนไปปลายปี64 และ 65 ตามลำดับ พร้อมแตกไลน์ธุรกิจ “Wellness Serviced Condo” นำคอนโดฯ“บลูไดมอนด์”ชิมลางก่อน 40-50 ยูนิต ล่าสุดจัดแคมเปญ “Mid Year Sale” ทุกโครงการลด 50%”เพิ่มทางเลือกลูกค้า
 นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน)หรือ CI  เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมาว่า ถือเป็นจุดเปลี่ยนของวงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในด้านการขาย การตลาด จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบอย่างบ้านเดี่ยว ผู้อยู่อาศัยที่มีกำลังซื้อจะมองหาบ้านเดี่ยวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต มากกว่าการเลือกซื้อคอนโดมิเนียม ซึ่งถือเป็นโอกาสให้ดีเวลอปเปอร์ที่มีสินค้าพร้อมขายอยู่ในมือได้รับอานิสงส์เพิ่มขึ้น

“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่ผ่านมาแม้จะสร้างความช็อกให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสใหม่ในวิกฤติที่ส่งผลให้บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ (Super Luxury) ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ ให้ความสำคัญในการมองหาบ้านเดี่ยวที่มีความปลอดภัย มีพื้นที่ใช้สอย    มีสวนและมีฟังก์ชั่นภายในบ้านตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด” นายสงกรานต์ กล่าว

ล่าสุดเพื่อเป็นการรับมือกับเทรนด์ยุคดิจิทัล บริษัทฯมีแผนในการออกเหรียญสกุลดิจิทัล (Crypto currency) หรือโทเคน ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันประเภทโรงแรม(รร.)และอาคารสำนักงาน(สนง.) เพื่อระดมเงินทุนนำเงินมารองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต ซึ่งปัจจบุันบริษัทยังมีสินทรัพย์ที่เป็นโรงแรมและอาคารสำนักงานที่เป็นของบริษัทเองอยู่ ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสในการที่ใช้การระดมทุนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อระดมทุนมารองรับการพัฒนาโครงการ โดยในเบื้องต้นอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของการออกเหรียญดิจิทัลดังกล่าวอยู่ ซึ่งคาดว่าจะมีการนำสินทรัพย์ที่เป็นโรงแรมหรืออาคารสำนักงาน 1-2 โครงการ เข้าเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันในโทเคน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า

“เรามองโอกาสการที่ Digital asset ที่มีความนิยมมากขึ้น และมีผู้เข้ามาลงทุนกันมาก ซึ่งเป็นแนวทางที่เราสนใจนำสินทรัพย์ของเรา อาจจะเป็นโรงแรมหรืออาคารสำนักงานเข้าไปในการออกคริปโตฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่บริษัทสามารถระดมทุนนำเงินมาต่อยอดการพัฒนาโครงการใหม่ๆได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาอยู่ น่าจะสรุปได้อีกประมาณ 4-5 เดือน”นายสงกรานต์ กล่าว

ขณะที่การนำสินทรัพย์ของบริษัทเสนอขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (SRIPANWA) ในปี 2564 นั้นจะเลื่อนออกไป  จากเดิมที่วางแผนจะนำโรงแรม BABA Beach Club หัวหิน เฟส 2 มูลค่า 1,500 ล้านบาท ขายเข้ากอง SRIPANWA ในปีนี้ แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องเลื่อนแผนการเสนอขายออกไปเป็นปี 2565

ส่วนการเข้าบริหารโรงแรมที่เกาะไห่หนาน ประเทศจีน นั้น ได้เลื่อนเปิดให้บริการออกไปเป็นปลายปี 2564 จากเดิมที่จะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2564 เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวยังไม่สามารถเปิดได้เต็มที่ และการตกแต่งโรงแรมมีความล่าช้าไปจากแผนเล็กน้อย แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ในจีนที่เริ่มคลี่คลายลงมากแล้ว ทำให้การท่องเที่ยวในประเทศจีนเริ่มกลับมา และเป็นโอกาสที่เหมาะสมในการที่โรงแรมจะเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2564นี้

ด้านธุรกิจโรงแรมของบริษัทนั้นปัจจุบันถือว่ายังได้รับแรดดดันจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงแรมในภูเก็ต และพังงา ที่อัตราการเข้าพักในปัจจุบันถือว่าน้อยมาก จากการที่ทั้ง 2 จังหวัด เป็นแหล่งท่องเที่ยว เจาะกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติ  และการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบ 3 ส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวของคนในประเทศหยุดชะงักไป โรงแรมในภูเก็ต-พังงาได้รับผลกระทบมาก แต่มองว่าหากภูเก็ตมีการเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 มากขึ้น และสามารถเริ่มเปิด Sandboxได้ทันวันที่  1 กรกฎาคม 2564 นี้ ซึ่งจะเริ่มรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามา เชื่อว่าการท่องเที่ยวภูเก็ตจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม หรือกันยายน เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยหนุนให้โรงแรมในภูเก็ตและพังงานของบริษัทกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ด้วย

สำหรับโรงแรมในหัวหินยังถือว่ายังสามารถมีอัตราการเข้าพักได้ในระดับที่ดีต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากเป็นจังหวัดที่คนกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียงสามารถเดินทางท่องเที่ยวโดยรถยนต์ส่วนตัวได้ และเป็นหัวเมืองที่คนในประเทศนิยมท่องเที่ยวกันมาก แต่หลังจากเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบ 3 ก็ได้รับผลกระทบบ้าง แต่เชื่อว่าหากโควิด-19 รอบ 3 เริ่มคลี่คลายลงชัดเจนแล้ว คาดว่าการท่องเที่ยวหัวหินจะกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

ในส่วนของธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขายของบริษัทยังถือว่าทำยอดขายและรายได้ได้อย่างดีมาตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ (Super Luxury) ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อให้ความสำคัญในการมองหาบ้านเดี่ยวที่มีความปลอดภัย มีพื้นที่ใช้สอยมีสวนและมีฟังก์ชั่นภายในบ้านตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด ซึ่งจะเห็นได้จากยอดขายของโครงการบ้านเดี่ยวที่บริษัทขายมาต่อเนื่องทั้ง 2 โครงการ สามารถทำยอดขายได้อย่างดี ได้แก่ โครงการ “อิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9” (Issara Residence Rama 9) ซึ่งเป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่จำนวน 20 ยูนิต สามารถทำยอดขายได้แล้วในปัจจุบัน 70% และโครงการ “บ้านอิสสระ บางนา” (Baan Issara Bangna) ซึ่งมีการเปิดขายในเฟสแรกจำนวน 25 ยูนิต  สามารถทำยอดขายได้แล้ว 60%

ทั้งนี้จะเห็นว่าแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเข้ามากระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยจะกระทบหนักในส่วนของตลาดระดับกลางลงไปเพราะกำลังซื้อถดถอยอย่างมาก แต่ทั้งนี้เองหากภาครัฐมีการแก้มาตรการทางกฎหมายในการเปิดทางให้ “ชาวต่างชาติ” สามารถซื้ออสังหาฯ บ้านแนวราบระดับราคา 10 – 15 ล้านบาทขึ้นไป พร้อมขยายเพดานซื้อ “คอนโดฯ” เป็น  70-80 % รวมถึงขยายสิทธิการเช่าจาก 30 ปี เป็น 40-50 ปี ก็ถือเป็นอีกโอกาสสำคัญที่จะช่วยดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศมาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้กลับมาฟื้นตัวได้เร็วต่อไป

“การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบนี้นับว่าเป็นรอบที่รุนแรงมาก ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทุกๆ ภาคธุรกิจ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จะจบลงเมื่อไหร่ จากรอบแรกที่ประเทศไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ก็ยังต้องกลับมาเผชิญอีกครั้ง ดังนั้นภาคธุรกิจต้องมีการปรับตัว และเราอาศัยได้แต่ Consumption จากในประเทศ เข้ามาช่วยในการพยุงธุรกิจ” นายสงกรานต์ กล่าว

นอกจากนี้ในส่วนของการปรับตัวของชาญอิสสระฯ ยังมองว่าจากนี้ไปโอกาสตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชูจุดเด่นเรื่องของสุขภาพ Wellness Serviced Condo จะเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ เป็น Real Demand และเป็นเทรนด์ใหม่ที่ชาญอิสสระฯเล็งจะแตกไลน์ธุรกิจ โดยจะนำร่องพัฒนารูปแบบดังกล่าวนี้ที่โครงการ “บลูไดมอนด์” ซึ่งตั้งอยู่ภายในอาณาจักรทิวทะเลเวิลด์ ชะอำ-หัวหิน ซึ่งจะนำมาทดลองประมาณ 40-50 ยูนิต ก่อน จะเน้นการให้บริการ อาทิ ตรวจสุขภาพประจำปีฟรี บริการ Wellness Service Package โดยศรีพันวา อาทิ บริการนวดผ่อนคลาย บริการสปาบำบัด เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ และยังมีห้องพยาบาลส่วนกลาง  บริการรองรับและช่วยเหลือเบื้องต้น เช่น First Aid, CPR และ AED Service บริการจัดการฝึกอบรม ฟื้นฟู เพิ่มเติมความรู้ทักษะ ส่งเสริมด้านการดูแลสุขภาพให้กับผู้พักอาศัย  บริการให้คำแนะนำ และติดต่อประสานงาน (Health & Concierge Service) อาทิ ประสานรถพยาบาล จัดหานักกายภาพ พยาบาลพิเศษ รวมถึงบริการมุมออก กำละงกาย มุมสันทนาการ และพื้นที่สีเขียวโดยรอบโครงการ ขณะนี้กำลังเตรียมความพร้อม และคาดว่าจะสามารถเปิดตัว Wellness Serviced Condo ได้เร็วๆนี้

อย่างไรก็ตามขณะนี้มองว่าประเทศไทยต้องเร่งนำวัคซีนเข้ามาเพื่อฉีดให้ประชาชนให้มากที่สุด แม้วัคซีนอาจจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาได้ 100% แต่ก็สามารถช่วยสร้างความมั่นใจพลิกฟื้นความเชื่อมั่น หนุนการบริโภค การลงทุน ภาคท่องเที่ยวและบริการกลับมาเป็นบวก จะช่วยพลิกเศรษฐกิจประเทศฟื้นคืนกลับมาได้

ในส่วนของกลยุทธ์ด้านการตลาดของชาญอิสสระฯ ในการกระตุ้นยอดขายช่วงกลางปีนี้ เตรียมจัดแคมเปญใหญ่ Mid Year Sale ทุกโครงการลด 50%” ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม โรงแรม เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้มีโอกาสเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพ ในราคาและเงื่อนไขที่จับต้องได้ อีกทั้งยังเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับลูกค้าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งแต่ละโครงการได้นำเสนอโปรโมชั่นเด็ดๆ สำหรับลูกค้า อาทิ

-โครงการดิ อิสสระ เชียงใหม่  จัดโปรโมชั่น “1 ห้องนอน  ขนาด 35 ตารางเมตร มอบส่วนลด 50%

– โครงการ บลูไดมอนด์ ชะอำ-หัวหิน ลดทันที 50%

– โครงการ ดิ อิสสระ สาทร   ลดเงินดาวน์ 50%

-โครงการ อิสสระ เรสซิเดนส์ พระราม 9 มาด้วยโปรโมชั่น“ซื้อบ้านวันนี้ ลดบ้านหลังที่สอง 50%” ซึ่งเป็นโปรโมชั่นที่แรงสุดๆ

สำหรับแคมเปญ “Mid Year Sale ทุกโครงการ  ลด 50%” โดยจะเริ่มในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 นี้

ส่วนแผนการออกหุ้นกู้ของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 จะไม่มีการออกหุ้นกู้ชุดใหม่แต่อย่างใด หลังจากที่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้เสนอขายหุ้นกู้ มูลค่า 950 ล้านบาท อายุ 2 ปี 11 เดือน อัตราดอกเบี้ย 6.70% ต่อปี ไปแล้ว แต่ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระคืนให้แก่ผู้ถือหน่วย วงเงินรวม 700 ล้านบาท บริษัทเตรียมเงินรองรับในการชำระคืนหุ้นกู้ชุดดังกล่าวที่จะครบกำหนดชำระคืน และไม่มีการออกหุ้นกู้ชุดใหม่มาทดแทน

เว็บไซต์อ้างอิง : prop2morrow
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อน กับ LINE @FEASY

เรื่องน่าสนใจ