loading
ลงทะเบียนนัด DEMO ออนไลน์
4 เทคนิค สำหรับธุรกิจอสังหาฯ ให้เตรียมพร้อมรับทุกวิกฤต
: 12 พฤษภาคม 2564 | :

ในโลคยุคนี้ ทุกธุรกิจต้องปรับตัว โดยเฉพาะเมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้นักพัฒนาอสังหาฯ ทั้งรายเล็ก และรายใหญ่ต้องปรับตัวกันอย่างรวดเร็วเพื่อให้ยังสามารถดำเนินกิจการไปได้ท่ามกลางพิษเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และยังไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน วันนี้ Real Tech Summit ร่วมกับ Mango ขอแนะนำ 4 เทคนิค สำหรับธุรกิจอสังหาฯ ให้เตรียมพร้อมรับทุกวิกฤต

 

ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ในปัจจุบัน ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากจาก การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายระลอก โดยเฉพาะตลาดอสังหาฯ กลุ่มแมส ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และโครงการอสังหาฯ ในต่างจังหวัด รวมถึงธุรกิจโรงแรมอีกด้วย จากที่ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการ บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์โควิดรอบที่ 3 กำลังนำไปสู่จุดเปลี่ยนภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 อย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยกดดันขึ้นอยู่กับรัฐบาลสามารถควบคุมความรุนแรงของโรคให้จบได้เร็วหรือไม่ 

นักพัฒนาอสังหาฯ รายเล็ก - รายกลางต้องหาทางรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ และวิกฤตที่อาจเกิดขึ้น เมื่อดูจากเทรนด์ตลาดที่อยู่อาศัยใน 3 ปีที่ผ่านมา ของ AREA จะพบว่าตลาดที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มหดตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562-2564 เมื่อเปรียบเทียบไตรมาส 1/64 กับไตรมาส 1/63 จำนวนหน่วยหายไป -49% จาก 18,591 หน่วย เหลือ 9,428 หน่วย “ถ้าเป็นไปตามแนวทางที่ประเมินไว้อาจกล่าวได้ว่า ซัพพลายใหม่ปี 2564 มีเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับปี 2562” 

 

เมื่อปัจจัยภายนอกด้านเศรษฐกิจไม่ค่อยเอื้ออำนวย พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเปลี่ยนเเปลงไป จำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรจะต้องมีเทคนิคเตรียมความพร้อมให้กับธุรกิจ ช่วยพัฒนาระบบบริหารจัดการภายในเพื่อรักษาสภาพคล่องและสร้างความเข้มแข็ง เริ่มตั้งแต่บริหารจัดการงบประมาณ การควบคุมต้นทุน วางแผนการบริหารงานก่อสร้างและงานขายอสังหาริมทรัพย์ ด้วย 4 เทคนิค สำหรับธุรกิจอสังหาฯ ให้เตรียมพร้อมรับทุกวิกฤต เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 

 

 

1. บริหารจัดการงบประมาณ การเงินของโครงการ

 

  • ตรวจสอบสภาพคล่อง โดยเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทไม่ควรน้อยกว่า 30% ของมูลค่าโครงการที่ได้รับ

  • เลือกใช้โปรแกรมช่วยในการบริหารต้นทุน และควบคุมงบประมาณ

  • เตรียมเงินทุนสำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน

  • แยกการใช้เงินแต่ละโครงการให้ชัดเจน

  • ตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และกำไรที่จะได้รับ

  • เปรียบเทียบต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงกับต้นทุนที่ประมาณการไว้


 

 

2. สร้างแผนงานที่ครอบคลุม

  • กำหนดมูลค่าของแผนงาน

  • กำหนดรายละเอียดแผนการทำงานให้ชัดเจน

  • ประมาณการต้นทุน งบประมาณ และปริมาณวัสดุ ระยะเวลาของแผนงาน

  • เตรียมพร้อม วางแผนจัดการบุคลากรให้เหมาะสมกับงาน

  • เตรียมแผนสำรอง มากกว่า 1 แผน

  • เข้าใจลำดับความสำคัญในแต่ละงาน

 

 

โปรแกรมการบริหารการวางแผนโครงการ “Mango Project Management Software”

  • ช่วยวางแผนงานตั้งแต่เริ่มโครงการไปจนจบโครงการ

  • มองเห็นภาพรวมของแผนโครงการในรูปแบบ Gantt Chart

  • กำหนดทรัพยากร วัสดุ แรงงาน เครื่องจักรได้ในแต่ละงาน

  • วางแผนงบประมาณติดตามสถานะโครงการได้อย่าง Real time

  • แสดงภาพรวมโครงการในรูปแบบ Dashboard

 

อีกหนึ่งจุดเด่นของโปรแกรม คือ ผู้ใช้งานสามารถรู้สถานการณ์ของโครงการได้ทันที ด้วยการวัดผลการดำเนินงาน ความก้าวหน้าโครงการ (Earned Value Analysis)

 

โปรแกรมสรุปข้อมูลของโครงการให้ดังนี้

  • แสดงข้อมูลในรูปแบบ S-Curve

  • มูลค่างานที่คาดว่าจะได้รับ (Planned Value : PV)

  • มูลค่างานที่ได้รับ (Earned Value : EV)

  • ต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง (Actual Cost : AC)

  • สรุปภาพรวมโครงการ

  • งบประมาณ

  • สถานะของงานในโครงการนั้นๆ

  • เปรียบเทียบแผนงานกับผลการดำเนินงาน

  • แสดงดัชนีความสำเร็จของงาน ค่า (Cost Performance Index : CPI) และ (Schedule Performance Index : SPI)

  • Schedule Variance : SV

  • Cost Variance : CV

 

 

3. นำซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

 

ปัจจุบัน Software ERP เข้ามามีบทบาทกับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและอสังหริมทรัพย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากระบบ ERP สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการงาน ช่วยให้เพิ่มความสำเร็จให้แก่ธุรกิจ ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูล กระบวนการทำงานตั้งแต่งานก่อสร้างไปจนถึงงานขายได้อย่าง Real time

 

อ้างอิงบทวิจัย ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยระบบอีอาร์พีในธุรกิจก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จากบทวิจัยสรุปได้ว่า ระบบ ERP เป็นระบบจัดการวางแผนทรัพยากรต่างๆ ภายในองค์กร มีส่วนช่วยในการทำงานของธุรกิจให้ดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น การนำระบบ ERP มาใช้ จะช่วยลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล และลดระยะเวลาในการทำงานลงได้

 

ทั้งสามารถเชื่อมโยงข้อมูลที่หลากหลาย แสดงข้อมูลได้อย่าง Real time ช่วยให้ธุรกิจสามารถรับรู้ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แสดงข้อมูลที่พร้อมใช้ได้ทุกที่ เป็นประโยชน์ในตรวจสอบข้อมูลนำไปสู่การตัดสินใจและการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับธุรกิจหรือโครงการ

 

 

โปรแกรม Mango Anywhere เป็น Software ERP ที่ช่วยในเรื่องบริหารจัดการโครงการ เพิ่มประสิทธิภาพ และลดระยะเวลาการทำงาน ช่วยบริหารต้นทุน Online ได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Tablet / iPad รวมถึง Mobile Application ใช้งานง่าย  เหมาะกับการตรวจสอบข้อมูล ใช้ควบคุมต้นทุนในแต่ละโครงการ เพื่อความก้าวหน้าของธุรกิจ

 

 

4. เริ่มจัดเก็บประวัติข้อมูล และวิเคราะห์ผลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

  • เก็บประวัติข้อมูลการทำงานของทุุกโครงการ

  • ดูภาพรวมของโครงการ ความสำเร็จของงาน ต้นทุน ค่าใช้จ่าย การทำงาน

  • เปรียบเทียบข้อมูล และวิเคราะห์ผล เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข และพัฒนา ให้ดียิ่งขึ้น

  • เลือกการใช้ข้อมูลอย่าง Realtime เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
     

แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยภายนอกอื่น ๆ จะไม่เอื้ออำนวยให้ธุรกิจเท่าไหร่นัก แต่การมีระบบในการบริหารจัดการที่ดี จะช่วยให้ธุรกิจก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มองเห็นต้นทุนที่เเท้จริง ลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ตรวจสอบสถานทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว สามารถนำไปวิเคราะห์ปรับแผนการบริหารงานให้สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และก้าวพ้นวิกฤตเศรษฐกิจปี 2564 อย่างราบรื่น


 

Facebook Mango : https://www.facebook.com/mangoconsultant/
Website Mango : https://www.mangoconsultant.com/th/
Line Official : https://lin.ee/qwK0xo5

เว็บไซต์อ้างอิง : https://www.mangoconsultant.com/th/
Writer
คุณน้ำทิพย์ พรโชคชัย
นักประเมินค่าทรัพย์สินระดับชั้นสามัญ MD, Area Research ผู้พัฒนา Feasy โปรแกรมวิเคราะห์การลงทุนอสังหาฯ
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อน กับ LINE @FEASY

เรื่องน่าสนใจ
ความรู้อสังหาฯ.